แนะนำตัว

รูปภาพของฉัน
เพชรบุรี, เอเชีย, Thailand
สื่อเป็นกลาง โปร่งใส สื่อของคนเมืองเพชร

2/28/2553

2012 วันสิ้นโลก..เรื่องจริงอิงจากนักดาราศาสตร์



บทความเรื่องวันสิ้นโลก



ด้วยความสงสัยของว่าทำไม 2012 จะมีข่าวลือเกี่ยวกับวันสิ้นโลกมากมายเหลือเกินบางแหล่งก็อ้างน้ำท่วมจาเหตุโลกร้อนบางแหล่งก็อ้างไบเบิ้ลเพราะพระเจ้ากำหนดมาแต่มีสิ่งที่นึงที่มีทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พร้อมเกี่ยวปรากฎการณ์ที่อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้และถ้าเกิดขึ้นก็จบ... ไม่เหมือนกับ LHC ที่กลัวโอกาสว่าจะเกิดหรือเปล่าเท่านั้น เรื่องนี้คือเรื่อง ดาวปริศานาดวงที่ 12 ของ ระบบสุริยะจักรวาลถ้าใครได้พอดูความปี 2002 จะได้ทราบว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ ดาวดวงที่ 12 ขึ้นมาอยู่ในระบบกาแล็คซี่เราดื้อๆแต่ความเป็นจริงนักดาราศาสตร์รู้จักดาวนี้มาตั้งแต่ปี 1982 แล้วซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตมากช่วงเดือน พฤษภาคม เพราะผมก็ได้ดูเหมือนกันมันคือดาวที่มีชื่อตั้งทางวิทยาศาตร์ว่า นิบิรุ Nibiru


และด้วยหลักฐานทางโบราณวัตถุและนักโบราณคดีได้กล่าวไว้เนืองๆว่า สิ่งของที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ได้เกิดจากดาวดวงนี้


แต่สิ่งที่เรารับรู้คือเจอดาวเคราห์ดวงใหม่ แล้วก็จบ...ทำไมถึงกล่าวอ้างเช่นนั้น? สิ่งที่เราไม่รู้มันคือสิ่งนี้ครับ....ดาวดวงนี้ทุนเดิมไม่ได้อยู่ในระบบกาแล็คซี่ทางช้างเผือกมาแต่เนิ่นๆ อยู่แล้วแต่... มีวงโคจรกว้างใหญ่ไพศาลมาก จนมาทับซ้อนลงบนกาแล็คซี่นี้



แปลว่า ที่นักวิทยาศาสตร์เห็นเพิ่มมาดวง ก็แปลว่ามันโคจรเข้ามาใกล้กาแล็คซี่ของเราสินะ? ถูกครึ่งเดียวเท่านั้นคะ ความจริง มันเข้ามาทับวงโคจรทั้งแถบเลย


มันเข้ามาใกล้จริงหรอ? เส้นทางวงโคจรทำให้เราได้รู้ว่าทางเราส่องดาวบริเวณทิศใต้สุดของดาวโลกเราจะเห็น แต่ปัจจุบันนี้ สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าแล้ว


และสำหรับคนที่อยากเห็นแต่ไม่มีตังค์ไปดูที่ทิศใต้สุดคือออสเตรเลียหรือประเทศอะไรก็แล้วแต่ แนะนำนะคะให้ลองใช้โปรแกรม googleSky ดู ท่านจะเห็นเป็นวงแดงๆอยู่วงเดียวทั้งท้องฟ้า นั่นแหละค่ะ นิบิรุ


....แล้วทำไม มันเกี่ยวอะไรกับโบราณสถานในอดีต? นักโบราณฯสันนิษฐานไว้ว่า นิบิรุเคยโคจรเข้ามาใกล้ทีนึงแล้วเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่มารอบนี้ มาเทียบและทาบวงโคจรของดาวนิบิรุ คาดว่ามีโอกาสที่จะชนกันสูงหรือแม้เฉียดกันก็เกิดอันตรายเพราะแกนของดาว มีสนามแม่เหล็กอยู่อาจจะทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวน เกิดภัยพิบัติต่างๆ และเค้าคาดการณืเอาไว้แล้วว่า ปี2012 เราจะสามารถเห็นดาวนิบิรุใหญ่ขนาดดวงอาทิตย์ได้เลย เพราะมันเข้าใกล้เรามากแล้ว ข้อมูลอาจจะยังไม่มากพอ เพราะNASAปิดข่าว เพราะกลัวว่าประชาชนรู้แล้วจะเกิดความวุ่นวายในโลก ดาวนิบิรุนี้มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นดาวที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยจักรวาลถึง2เท่า!


ข่าวใหม่ล่าสุด 23 พ.ค. 2552 ช่อง11 (4ทุ่ม) มีการคุยเรื่อง วันสิ้นโลก อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้วชาญไฮโดรเจน จากองค์กรนาซ่า ได้ทำงานในนาซ่าร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วโกเพื่อสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลก (แต่รู้ในวงจำกัด) อ.สุมิตร ยืนยันว่าในอีก3ปีนี้ จะเกิดอุทกภัยน้ำท่วมโลกแน่นอน และคนในองค์กรนาซ่าทราบเรื่องนี้มานานแล้ว และได้สร้างยานอวกาศดังกล่าวใกล้เสร็จสิ้นแล้ว(แต่ไม่ทราบจำนาน)


อ.สุมิตร ยืนยันว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นมีจริง ปัจจุบันมีต่างดาวทำงานร่วมกับนาซ่า โดยสื่อสารทางโทรจิต ในการถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีเพื่อช่วยมนุษย์จากน้ำท่วม (มนุษย์บางคนเท่านั้นที่ถูกเลือก) อ.สุมิตรยังยืนยันด้วยว่า โลกมนุษย์เราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ในจักวาลอื่นๆก็มีมนุษย์ต่างดาวกว่า200จักรวาล


อ.สุมิตร บอกว่า มนุษย์โลกสามารถติดต่อกับต่างดาวได้มานานแล้ว แต่ สหรัฐอเมริกาค่อนข้างปิดข่าว ทำให้คนส่วนมากไม่รู้ เมื่อไม่รู้ก็ทำให้คิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล อ.สุมิตรท่านเคยไปบอกกระทรวงวิทยาศาสตร์ของไทยว่าควรสร้างยานอวกาศโดยเร็ว เพราะท่านมีเทคโนโลยีในการสร้างแล้ว ขาดก็แต่งบประมาณ แต่กลับไม่มีใครเชื่อ แถมหาว่าทานเป็นบ้าอีกด้วย พวกฝรั่งเขารู้กันมานาน สร้างยานกันเกือบเสร็จแล้ว แต่คนไทยยังไม่รู้เรื่องอะไร จะจมน้ำตายกันอยู่แล้ว!!!!


เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล อาจารย์สุมิตร มีตัวตนจริงๆ ลองหาข้อมูลของอาจารย์สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา ใน google ดูก็ได้ค่ะ


แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนค่ะ


ทาง NASA ได้คํานวนไว้เเล้ว


- ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบบขีปนาวุธ computer)


- การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ


- ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ่อนอย่างมาก


- ทำให้ภูเขาไฟเพิ่มขึ้น เกิดการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แผ่นดินไหว และแผ่นดินถล่ม


- สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphere) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้เเละในที่สุดเราก็จะตายกันหมด


- กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมายจะเฉียดเข้าใกล้โลกได้ง่ายขึ้น


-แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม



นอกกรอบ





ทางโหราศาสตร์ - บ่งบอกว่าจะเกิดการเรียงตัวกันของ โลก กาแล็คซี่ทางช้างเผือก และดวงอาทิตย์


ทางโบราณคดี - อย่างที่พูดข้างต้นไว้...เป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของช าวมายันมีเเค่ 2012 เท่านั้น


ทางการทำนาย - นอสตราดามุสได้ทำนายไว้กับราศีตีความแล้วสอดคล้องกับ ทางโหราศาสตร์


ทางด้าน UFO - ผู้ที่ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้อ้างว่ามนุษย์ต่างดาวได้บอกเค้า(แล้วแต่ความเชื่อ...)


ไม่ว่าจะทางใด ดูจากหลาย ๆ ทางแล้วชี้ไปในปีเดียวกัน ความเชื่อมั่นกับสิ่งที่จะเกิดในปี 2012 นั้นน่าจะมีอะไรเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ แต่ที่แน่ ๆ ในปัจจุบันดิฉันมั่นใจว่ามันน่าจะเริ่มเกิดขึ้นแล้ว โดยสังเกตุจากผลกระทบจากภัยธรรมชาตินี่เอง เมื่อกลับมามองดูปี 2012 ก็เลยมานั่งพิจรณาดูเล่น ๆ (การนับเลขฐานสิบจะนับศูนย์ถึงเก้า) ถ้าเราตัดเลขสองออกก็จะได้เลขนับ 0->1->2 เมื่อมาดูเป็นปี พ.ศ. มันเป็นปี 2555 (เลขสวยมาก) ถ้าเราตัดเลขสองออกเช่นกัน จะได้เลข 5 เรียงตัวกัน 3 ตัวดิฉันขอโยงไปเรื่องโหราศาตร์ที่จะมี โลก กาแล็คซี่ และดวงอาทิตย์ ที่จะเกิดการเรียงตัวกัน ผลลัพธ์นั้นคงบอกไม่ได้ อาจเกิดผลกระทบรุนแรงต่อโลกหรืออาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้ เพราะสิ่งที่เราไม่รู้นั้นยังมีอีกมากมายทั้งในอวกาศและจักรวาล ยังที่บอกไวว่าดาวเเบบเราไม่ได้มีเเบบนี้ใบเดียวจริงๆ มี 200 กว่าดวง


ข้างล่างนี้เเล้วเเต่คนจะเชื่อค่ะ


1. ประกาศจากองค์การ NASA วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) วันนั้นแกนโลกของเราจะพลิกกลับขั้ว คือ ขั้วโลกเหนือจะมาอยู่ที่ขั้วโลกใต้ ช่วงเวลานั้น โลกของเราจะไม่มีสนามพลังแม่เหล็ก เพื่อป้องกันตัวเองจากสนามพลังแม่เหล็ก และ รังษีต่างๆจากอวกาศ


แล้ววัน นั้นจะเป็นวันเดียวกับที่ ดวงอาทิตย์จะพลิกกลับขั้วเช่นกัน เพราะดวงอาทิตย์จะพลิกกลับขั้วทุกๆ 11 ปี ปีล่าสุดคือปี พ.ศ. 2544 ถ้ามาถึงวันนี้ก็ 11 ปีพอดี (2544 + 11 = 2555) ขณะ ที่ดวงอาทิตย์กำลังพลิกกลับขั้วนั้น ดวงอาทิตย์จะแผ่สนามแม่เหล็ก และรังษีความร้อนสูงมายังโลก ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่โลก ไม่มีสนามแม่เหล็กป้องกันตัวเอง ผลคือ น้ำแข็งขั้วโลกละลายฉับพลัน น้ำท่วมโลกฉับพลัน ไม่มีทางหนีได้ทัน ในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555)


2. ชาวมายา (ชนเผ่ามายาแห่งอเมริกากลาง) ทำปฏิทินใช้เองตั้งแต่ 1,000 ปีที่แล้ว ชนเผ่ามายานี้มีความสามารถในการคำนวนการโคจร การเกิดดับของดวงดาวอย่างไม่น่าเชื่อ คือเขาสามารถคำนวนว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์โดยใช้เวลา 365 วัน ตั้งแต่ 1,000 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงกับปฏิทินที่ชาวโลกปัจจุบันใช้กัน แล้วยังสามารถคำนวนเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาลได้อย่างแม่นยำมาก


ชาว มายายังกำหนดวันสุดท้ายของปฏิทินของพวกเขาคือ วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) พวกเขาบอกด้วยว่า วันนั้นโลกจะถึงจุดสิ้นสุด (โดยบอกไว้เมื่อ 1,000 กว่าปีที่แล้ว) น่าแปลกมาก ทำไมมาตรงกับองค์การ NASA อ่ะ


3. นาย Gordon-Michael Scallion เป็นผู้หยั่งรู้อนาคต (futurist) มีญาณทัศนะ(Spiritual Visionary) คือมองเห็นอนาคตด้วยญาณ มีความแม่นยำมาก เขาได้ทำนายว่า น้ำกำลังจะท่วมโลก จนหลายประเทศหายไปจากแผนที่ ประเทศที่เป็นเกาะจะจมน้ำทั้งหมด ประชากรโลกที่รอดตายมีเพียง 10% เท่านั้น เขาเชื่อว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในระหว่างปี 1998-2012 (พ.ศ.2541-พ.ศ.2555) และเขาได้สร้างแผนที่โลกใหม่หลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อ Future Map Of The World ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1978 (พ.ศ. 2521) ซึ่งประเทศไทยเหลือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น   ทําไมหน้ากลัวยังงี้นะทำไมจึงไม่เป็นข่าวใหญ่โตหลายคนคงสงสัยฉันได้ข้อมูลมาค่ะหลายคนสงสัยว่าทำไมไม่มีข่าวออกทาง TVเค้าประกาศเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลกมาหลายปีแล้วค่ะ ถ้าอยากจะอ่านย้อนหลังให้เข้า Google พิมพ์ว่า องค์การ NASA แกนโลกพลิก 2012หรือถ้าชอบอ่านภาษาอังกฤษให้พิมพ์ว่า Pole Shift NASA 2012ถ้าคิดว่า อะไรที่เป็นข่าวจะต้องออก TV ล่ะก็นะพี่ๆคงเข้าใจผิดอ่ะค่ะ เพราะ TV เมืองไทยเค้าเซ็นเซอร์ เค้าไม่ได้ให้ออกทุกอย่างหรอกข่าวบางอย่าง ประเทศอื่นเป็นข่าว แต่ในไทยไม่ออกข่าว มีมากมาย เพราะมีญาติอยู่ที่อเมริกาTV เมืองไทย ไม่ได้เสรีอย่าง อเมริกาถ้าจะดูข่าวแบบไม่เซ็นเซอร์ ขอแนะนำให้ดูทาง เคเบิ้ล TVหรือติดจานดาวเทียม หรือ ตามข่าวจาก Internet เพราะสื่อแบบหลังๆนี้ ไม่มีการเซ็นเซอร์เนื้อหา มาแบบเต็มๆค่ะเรื่องแกนโลกพลิกเนี่ย เป็นข่าวใหญ่ในอเมริกา และ ยุโรป เมื่อหลายปีก่อนแล้วแต่เมืองไทยกลับไม่มีข่าว สงสารคนไทยจริงๆค่ะ ดีนะยังมี Internetเพราะถึงแม้ว่าคนทั่วไปจะรับรู้ทุกๆคน ก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไร ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยแม้แต่องค์การ NASA เอง ก็ไม่มีทางแก้ไขอะไรเลย เพราะนี่คือมหันตภัยที่ใหญ่หลวงที่สุด เท่าที่มนุษย์เคยพบมาไม่มีทางแก้ไขอะไรได้ ทางรอดมีทางเดียว อพยพผู้คนไปดาวดวงอื่นค่ะ ซึ่งในทางปฏิบัติ น่าจะเป็นไปได้เพราะ NASA ต้องหาทางออกได้เเน่


ข่าวคืบหน้า


แกนโลกจะพลิกกลับขั้ว "Pole Shift" บรรดา ET กำลังให้ความช่วยเหลือในการรอดของมนุษย์
เเละอาจเกี่ยวกับไดโนเสาตายจากการทำงานของนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง ที่ได้ศึกษาปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัว บอกว่าโลกและดวงอาทิตย์ ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกันและสัมพันธ์กัน โดยจะแลกเปลี่ยนพลังงานและใช้จนหมดกระบวนการหนึ่ง จนเกิดกระบวนการของการพลิกกลับขั้วเกิดขึ้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน เมื่อสัตว์จำพวกไดโนเสาร์ที่สาบสูญไปในช่วงเวลานั้น

ดาว NIBIRUที่สามารถมองเห็นด้วยกล้องดูดาว

ปัจจัยที่ดาวนิบิรุชนดาวโลกในปัจจัยข้อนี้มีโอกาศชนถึง 95 เปอร์เซ็นโดยประมาณที่จะทำไห้โลกแตกและหายไปทั้งดวงและอีก 3 เปอร์เซ็นโดยประมาณโลกจะหายไปส่วนหนึงดาวโลกจะเกิดการขาดสมดุลทางด้านแรงโน้มถ่วงและทำไห้โลกเราอาจจะเกิดการเปลี่ยนวงโครจรและทำไห้มนุษย์ตายและลอยเควงควางอยู่กลางอากาศอีก 1 เปอร์เซ็นโดยประมาณดาวนิบิรุชนดวงจันทร์ทำไห้ดาวนิบิรุเปลี่ยนวงโคจรทำไห้ไม่ชนโลกแต่สะเก็ดดวงจันทร์จะตกลงมายังโลกและเกิดการเสียหายอยู่ดีและทำไห้น้ำท่วมโลกเพราะไม่มีดวงจันทร์ทำไห้ไม่เกิดปรากฎการน้ำขึ้นน้ำลงจึงทำไห้นำท่วมโลกอยู่ดีและอีก 0.02 โดยประมาณดาวนิบิรุเพียงแค่เฉียดโลก


ทั้ง 3 อย่าง นาซ่าคาดว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันในค.ศ2012 หรือพ.ศ2555 นี้ค่ะ

ทั้งหมดนี้ ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนนะคะ ดิฉันแค่เพียงอยากให้ทุกคนรู้ทั่วถึงกัน เพราะเห็นว่าเป็นข้อมูลสำคัญอย่างหนึ่ง ใครมีความเห็นอะไร ติชมอย่างไร ก็ฝากไว้ได้ค่ะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น